วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เตรียมตัว backpack อีกครั้ง

ห่างหายไปนานกับการเข้ามาเขียนบล็อกของตัวเอง หายไปเป็นเดือนๆ จนแทบจะเป็นบล็อกร้างไปเลย แต่ก็ยังดีใจว่ายังมีคนหลงเข้ามาอ่านเรื่อยๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศซึ่งรวมถึงในแคนาดาด้วย ผู้อ่านหลายท่านอาจจะสงสัยว่าผู้เขียนทราบได้อย่างไรว่ามีผู้อ่านจากส่วนไหนของโลกเข้ามาอ่าน ก็ขอเรียนให้ทราบเสียตรงนี้เลยว่า blogger เขามีแผงควบคุมที่แสดงให้เจ้าของบล็อกทราบสถิติคนเข้ามาชมบล็อกกับทราบถึงสถานที่ว่าผู้เข้ามาเยี่ยมชมบล็อกนั้นใช้คอมพิวเตอร์มาจากส่วนไหนของโลก ยังไงก็แล้วแต่ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมบล็อกนี้โดยจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม

อันที่จริงว่าจะเขียนเรื่องที่เกี่ยวกับแคนาดาต่อ แต่เป็นเพราะว่าช่วงนี้นอกเหนือจากเรื่องงานแล้ว ที่เข้ามามีส่วนทำให้ชีวิตผู้เขียนยุ่งขึ้นไปอีกคือการเตรียมตัวไป backpack อีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ไปไกลหลายประเทศเลย และก็ไม่ใช่การเดินทางคนเดียวเหมือนครั้งที่ผ่านมา แต่ไปกันหลายคนก็ไม่ใช่ใครอื่นไกลพี่ๆ ที่ทำงานอยู่กระทรวงเดียวกันนั่นเลย




กำหนดการที่วางแผนไว้คือเดินทางไปในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน ๒๕๕๔ เบ็ดเสร็จก็ขอลางานเฉพาะวันทำการก็สิบเอ็ดวัน แต่รวมๆ แล้วใช้เวลาไปเที่ยวยี่สิบสองวัน (เพราะมีวันหยุดพิเศษบ้าง เสาร์อาทิตย์บ้าง) สำหรับประเทศที่จะไปคืออังกฤษ ฝรั่งเศส สวิส ออสเตรีย สาธารณรัฐเชค และสุดท้ายคือฮังการี อาจจะมีผู้อ่านบางท่านสงสัยว่าจะเดินทางตั้งปีหน้าโน้น ทำไมรีบร้อนเตรียมตัวกันตั้งแต่ตอนนี้ ก็เลยอยากจะแบ่งปันข้อมูลที่พอจะทราบกับประสบการณ์ที่ตัวเองเคยพบมาว่า การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศในแบบฉบับของผู้เขียนที่มีงบประมาณแบบจำกัดจำเขี่ย (เป็นข้าราชการจนๆ แต่อยากไปเที่ยวยุโรปกับเขาบ้าง แบบไปเที่ยวจริงๆ ไม่ใช่ไปทำงาน) จะต้องเตรียมตัวกันตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างแรกก็คือค่าใช้จ่ายยานพาหนะระหว่างประเทศ เช่น เครื่องบิน รถไฟ เหล่านี้ถ้าซื้อล่วงหน้าเป็นเวลานานจะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกมาก

สำหรับกรณีของกลุ่มผู้เขียนนั้นในขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยเริ่มตั้งแต่การซื้อตั๋วเครื่องบินเมื่อเดือนพฤศจิกายน โดยซื้อตั๋วของสายการบินอียิปต์แอร์แบบ multi-destination แบบราคาถูกสุดราคาสองหมื่นเก้า (มีใครบางคนในกลุ่มร้องอุทานว่า พระเจ้า ไปยุโรปเนี่ยนะราคาสองหมื่นเก้า นั่นแนะฟังไม่ผิดหรอกสองหมื่นเก้า เงื่อนไขอะไรของสายการบินก็ดูหมดแล้ว อายุตั๋วหนึ่งปี คืนตั๋วได้ เปลี่ยนได้แต่มีค่าปรับในอัตราที่เรารับกันได้ ข้อสำคัญสายการบินนี้เขาสะสมไมล์รอยัลออร์คิดพลัสของการบินไทยได้ด้วยเพราะเป็น star alliance members แต่ข้อควรระวังอย่างหนึ่งคือวันเดินทางต้องไปเช็คอินล่วงหน้านานๆ หน่อย มากกว่าสองชั่วโมงได้ยิ่งดี เพราะกลัวเรื่อง over booking จริงๆ เลย ถ้าท่านผู้อ่านท่านไหนไม่ทราบเรื่อง over booking วันหลังจะนำมาเล่าให้ฟัง)




สำหรับกำหนดการก็นั่งอียิปต์แอร์ที่สุวรรณภูมิไปแวะที่ไคโรสักสองสามชั่วโมงจากนั้นก็ต่อไปฮีทโธรว์ จากนั้นอยู่เที่ยวลอนดอนกับเมืองใกล้เคียงสี่วัน จากนั้นนั่งยูโรสตาร์จากสถานีเซ็นแพนคราสของลอนดอนไปประมาณสองชั่วโมงเศษๆ เพื่อไปเที่ยวปารีส อยู่เที่ยวปารีสสามสี่วัน ต่อไปสวิสไปอินเตอลาเคนหรือเมืองใกล้เคียงเพื่อจะไปขึ้นจุงเฟรา จากจุงเฟราต่อไปซูริค เพื่อนั่งรถไฟแบบ night train เพื่อไปถึงเวียนนาในตอนเช้า แล้วออกเที่ยวเลย อยู่เที่ยวเวียนนาอีกสามวันไปปรากกับเชสกี้ครุมลอฟของประเทศเชค จากนั้นก็มาจบที่บูดาเปสต์ของฮังการี แล้วก็ขึ้นเครื่องอียิปต์แอร์ที่บูดาเปสต์นี่แหละกลับกรุงเทพฯ ฟังดูเหมือนง่ายๆ แต่ก็ต้องเตรียมตัวเยอะเหมือนกัน

มาถึง ณ ขณะนี้ทุกคนในกลุ่มได้รับอนุมัติวีซ่าของอังกฤษเรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงซื้อตั๋วของยูโรสตาร์ในราคาที่ผู้เขียนพอใจสุดๆ คนละสามสิบเก้าปอนด์ คิดเป็นเงินไทยก็ไม่ถึงสองพันบาท ตั๋วยูโรสตาร์เนี่ยเป็นสาเหตุหลักเลยที่ผู้เขียนต้องรีบดำเนินการอะไรต่อมิอะไรล่วงหน้านานๆ เพราะราคาค่าตั๋วจะเขยิบสูงขึ้นเรื่อยๆ หากไปซื้อใกล้วันเดินทาง ราคาเป็นหมื่นบาทก็ยังเคยเห็น



ดังนั้นเลยต้องขออภัยสำหรับบางท่านที่อาจจะอยากอ่านเรื่องเล่าเกี่ยวกับแคนาดา คงต้องขอติดเอาไว้ก่อน คงจะไม่เกินเดือนหน้าการเตรียมตัวเรื่องการเดินทางครั้งนี้น่าจะสำเร็จลุล่วงไปได้เยอะ และทำให้ผู้เขียนมีเวลาแบบสบายๆ มานั่งเขียนเล่าเรื่องความประทับใจในช่วงเวลาที่อยู่ที่แคนาดา รวมทั้งในปีหน้าอาจจะมีประสบการณ์การเดินทางครั้งใหม่มาเล่าสู่กันฟังอีกก็ได้





photos credit to: http://www.showded.com/myprofile/mainblog.php?user=pimaksorn&jnId=67006, http://www.arabiansupplychain.com/article-4262-egyptair-to-commence-copenhagen-flights/, http://www.skyscrapercity.com/showthread.php?p=54393857

วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ทรงพระเจริญ (Long Live My Beloved King)




ทรงพระเจริญ Long Live My Beloved King

หมายเหตุ:ช่วงนี้ผู้เขียนไม่ค่อยมีเวลาว่างมาอัพเดทบล็อกเลย เพราะนอกจากจะยุ่งเรื่องงานแล้ว ยังมีแผนการที่จะเป็นหัวหน้าแบ็คแพ็คเกอร์เพื่อไปยุโรปกับบรรดาพี่ๆ ในกระทรวงแรงงานในเดือนมีนาคมปีหน้า ก็เลยวุ่ยวายอยู่กับการเตรียมจัดการหลายอย่าง เลยยังไม่มีเวลามานั่งเขียนเรื่องการใช้ชีวิตที่แคนาดา คงต้องประมาณปลายเดือนนี้น่าจะเข้าที่เข้าทางแล้วมีเวลามาเขียนอะไรต่อมิอะไร แต่อย่างไรก็ตามถึงจะไม่มีเวลากับบล็อกตัวเองนัก แต่ที่ขาดไม่ได้คือการเขียนถึงพระเจ้าอยู่หัวอันเนื่องเป็นคล้ายวันพระราชสมภพของท่าน โดยมีพระชนมายุครบ ๘๓ พรรษาแล้ว ผู้เขียนเห็นท่านมีพระพักต์สดชื่นแจ่มใสดีก็รู้สึกดีใจอย่างมากแล้ว ในวาระที่เป็นมงคลเช่นนี้พรใดที่พระองค์ท่านได้พระราชทานแก่พสกนิกรของพระองค์ ได้แก่

"บ้านเมืองของเราเป็นปึกแผ่นร่มเย็นปกติสุขมาช้านาน เพราะเรามีความยึดมั่นในชาติ และต่างร่วมมือร่วมมือร่วมแรงใจกันทำหน้าที่โดยนึกถึงประโยชน์ ส่วนรวมของชาติเป็นเป้าหมายสำคัญสูงสุด ท่านทั้งหลายในสมาคมนี้ ตลอดจนคนไทยทุกหมู่เหล่า จึงควรทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนไว้ให้กระจ่าง และนำไปปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ด้วยความไม่ประมาท และด้วยความมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ เพราะการกระทำโดยประมาท ขาดความรอบคอบ เป็นเหตุให้เกิดความผิดพลาด เสียหายในหน้าที่และการกระทำโดยขาดสติยั้งคิด ขาดเหตุผล เป็นเหตุให้เกิดหลงลืมความกลัว ทำให้กระทำสิ่งที่มิใช่หน้าที่โดยชอบได้ ซึ่งเป็นอันตรายมาก อาจจะนำความเสื่อมสลายมาสู่ตนเองตลอดทั้งประเทศชาติได้ จึงขอให้ทุกคน ได้สังวรณ์ระวังให้มากและประคับประคองกาย ใจ ให้เที่ยงตรง หนักแน่น ในอันที่จะปฏิบัติภารกิจตามเหตุผลของตนให้ถูกต้องตามหน้าที่ เพื่อความมั่นคงและเพื่อประโยชน์สุขอันยั่งยืนของชาติไทยเรา

ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านให้ปราศจากทุกข์ปราศจากภัยและอำนวยสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลให้สำเร็จผลขึ้นแก่ท่านทั่วหน้ากัน”


ผู้เขียนที่ในฐานะพสกนิกรและข้าราชการที่หมายความถึงข้าของพระราชา ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมในการนำพระบรมราโชวาทดังกล่าวมาปฏิบัติเพื่อการเป็นข้าราชการที่ดี รวมทั้งขอถวายพระพรนั้นกลับคืนแก่พระองค์ท่านให้เป็นร้อยเท่าทวีคูณ "ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์คนไทยเคารพนับถือ รวมทั้งพระสยามเทวาธิราช จงปกปักรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัย และทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน"

photo credit to Manager Online