วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ตัวอยู่ปารีสคลิชชี …ใจอยู่ลอนดอนเกรทพอร์ทแลนด์

หลังจากออกจากชานชาลาของสถานี Paris Gare du Nord แล้ว ผู้เขียนปล่อยให้พี่ๆ สำรวจเส้นทางเพื่อจะหาทางไปสถานีรถไฟใต้ดินของปารีส หรือคนที่นี่เขาเรียกว่าเมโทร ในขณะที่ตัวผู้เขียนกับพี่โป่งต้องไปทำภารกิจสำคัญก่อนที่เราจะออกจากสถานี Gare du Nord แห่งนี้ นั่นก็คือการไปเปิดการใช้ตั๋วรถไฟระหว่างประเทศที่ชื่อ “ยูเรลซีเล็คพาส (Eurail Select Pass) หรือการ Validate ตั๋ว รวมไปถึงการจองที่นั่งรถไฟล่วงหน้าสายด่วนพิเศษทีจีวีของฝรั่งเศส (TGV: Train à Grande Vitesse) เส้นทางปารีส-ลูเซิร์น ที่เราจะต้องเดินทางในอีกสามสี่วันข้างหน้า เพราะถ้าเราไม่รีบจองที่นั่งรถไฟ TGV ล่วงหน้า เราอาจไม่ได้ที่นั่งในรถไฟเที่ยวนั้นๆ ได้ ถึงยังงั้นก็ตามเราก็พบกับสิ่งที่เรากังวลไว้ตั้งแต่ต้น นั่นก็คือรถไฟขบวนที่เราต้องการที่นั่งเต็มหมดแล้ว เราจึงต้องเปลี่ยนแผนที่ตั้งใจไว้โดยคนขายตั๋วแนะนำว่าเราต้องจองที่นั่งของรถไฟสายธรรมดา ซึ่งจะต้องแวะเปลี่ยนรถไฟประมาณสามถึงสี่สถานีกว่าจะเดินทางถึงลูเซิร์น ซึ่งเราไม่มีทางเลือกอื่นเราจึงทำตามคำแนะนำของคนขายตั๋ว สำหรับข้อมูลการซื้อและวิธีใช้ยูเรลพาสโดยละเอียด รวมทั้งความลำบากของพวกเราที่ต้องแบกสัมภาระโดดขึ้นลงรถไฟหลายรอบหลายขบวน จะได้นำมาเล่าในตอนต่อไป

เมื่อทำธุระเรื่องเปิดใช้ตั๋วและจองที่นั่งเรียบร้อยแล้ว จึงได้เวลาที่ต้องเดินทางออกจากสถานี Gare du Nord เสียที แต่โชคไม่เข้าข้างเราเอาเสียเลยที่ขณะนั้นเป็นเวลาเลิกงานของชาวปารีเซียงพอดี ดังนั้นคงไม่น่าแปลกใจว่าตามสถานีเมโทรจะมีคนรอขึ้นรถไฟมากมายสักเพียงใด นอกจากนั้นในรถไฟแต่ละตู้ก็เต็มไปด้วยผู้คน จนไม่มีช่องว่างพอที่จะให้เราและสัมภาระใบโตๆ แทรกเข้าไปได้ พวกเราจึงต้องใช้เวลาอยู่ตามสถานีเมโทรแต่ละแห่งอยู่นานพอสมควรกว่าที่จะมีรถไฟที่พอจะมีที่ว่าง ให้เราแทรกตัวเข้าไปได้ผ่านมาสักขบวน




เราตั้งต้นจากสถานี Gare du Nord นั่งเมโทรสาย ๔ ไปหนึ่งสถานีเพื่อไปลงที่ Barbes Rochechouart จากนั้นต่อด้วยสาย ๒ นั่งไปอีก ๔ สถานีเพื่อลงที่ Place de Clichy แล้วจึงต่อด้วยสาย ๑๓ เพื่อไปลงที่ Mairie de Clichy อันเป็นสถานีจุดหมายของเรา






ออกจากสถานี Mairie de Clichy มาแล้วเราก็ต้องเดินตามหา Paris Clichy Hostel ตามแผนที่ที่พิมพ์มาจากเว็บไซท์ของ Hostel ยังดีที่ Hostel ที่ว่าหาได้ไม่ยากเพราะตั้งอยู่ริมถนน และก็เป็นตึกสูงหลายชั้นรวมทั้งมีป้ายสัญญลักษณ์ Hostelling International ติดตั้งที่ตัวตึกทำให้สังเกตได้ง่าย อย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้นเราก็ได้พบความมีน้ำใจของแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์ที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ ช่วยชี้ทิศทางที่จะมา Hostel ให้หลังจากที่เธอเห็นกลุ่มนักเดินทางหน้าตาเอเชียเหมือนเธอ หันรีหันขวางมองไปตามเส้นทางของถนนเพื่อหาอะไรบางอย่าง เราพูดคุยกับเธออยู่เป็นนานและขอบอกขอบใจที่เธอช่วยบอกเส้นทางให้ ก่อนจะเดินจากมา (ถึงแม้ว่าเราจะรู้ว่าเส้นทางที่เธอบอกนั้นมันผิดทิศ และเราก็เดินทางไปยังทิศทางตรงกันข้ามกับที่เธอบอก)

แล้วเราก็มาหยุดยืนทอดถอนหายใจหน้า Paris Clichy Hostel หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อเราพบว่าทางเข้าตัวอาคาร Hostel แห่งนี้ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าพักเอาเสียเลย เนื่องจากการที่จะเข้าไปในตัวอาคารนั้นเราจะต้องยกกระเป๋าอันหนักหนาสาหัสขึ้นบันได้ไปอีกหลายขั้นเลยทีเดียว แต่เมื่อมาแล้วไหนไหนก็ไหนไหน อดทนอีกอึดใจเดียวเดี๋ยวก็ได้พักเหนื่อยแล้ว ดังนั้นพวกเราเลยร่วมแรงร่วมใจช่วยๆ กันแบกสัมภาระขึ้นบันไดจนไปถึงหน้าเคาน์เตอร์เช็คอิน
















พนักงานเคาน์เตอร์เช็คอินเป็นผู้หญิงผิวสี อายุก็คงรุ่นราวคราวเดียวกับพนักงานเคาน์เตอร์เช็คอินของ Hostel ที่อื่นทั่วไปที่นิยมจ้างนักศึกษาเป็นพนักงาน part-time การบริการของพนักงานที่นี่จะว่าไปก็เป็นไปตามมาตรฐานทั่วไป หน้าตาไม่ได้ยิ้มแย้มหรือบึ้งตึงอะไร ข้อมูลที่ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเข้าพักก็เป็นไปข้อมูลการเข้าพักล้วนๆ เช็คอินเสร็จแล้วก็แล้วกัน และยิ่งเมื่อขึ้นไปเห็นสภาพห้องพักที่กุญแจแสนเปิดยากเปิดเย็น ร่ำๆ จะเถียงกันกับเพื่อนร่วมห้องเพราะเปิดห้องไม่ได้เนี่ยหลายครั้งหลายหน ไหนจะเตียงนอนสองชั้นที่เวลาคนนอนเตียงล่างจะลุกออกจากเตียงต้องก้มหัวคลานออกมาเพราะไม่สามารถลุกขึ้นนั่งได้เพราะหัวติดเตียงบน (ออกแบบยังไงเนี่ย) รวมทั้งสภาพน่ากลัวของห้องน้ำที่อยู่ข้างนอก เวลาจะไปอาบน้ำต้องชวนเพื่อนไปอาบพร้อมๆ กัน











หลายสิ่งหลายอย่าง ทำให้เรารู้สึกนึกถึง London Central Hostel ที่เกรทพอร์ทแลนด์ที่เราเพิ่งจากมาเป็นกำลังเลยทีเดียว ดูอะไรๆ ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง นับตั้งแต่ทางเข้า ที่ London Central Hostel ไม่ต้องลากสัมภาระขึ้นบันไดมากว่าสิบยี่สิบขั้นเหมือนอย่างที่นี่ พนักงานที่นั่นยิ้มแย้มแจ่มใสให้การบริการอย่างเป็นกันเอง นอกจากเรื่องที่พักแล้วยังชวนพวกเราคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ สภาพห้องพักก็ดูดีมีคีย์การ์ดเหมือนตามโรงแรม ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำก็สมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง จะว่าไปให้ผู้เขียนไปพัก hostel ที่ออตตาวาในแคนาดาที่เคยเป็นคุกเก่า สมัยที่ไปเที่ยวตอนเรียนอยู่แคนาดายังจะดีเสียกว่าเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะโทษใครไม่ได้ เพราะคนที่จัดแจงทุกสิ่งอย่างในการท่องเที่ยวครั้งนี้คือตัวผู้เขียนเอง อย่าว่างั้นงี้เลยเดี๋ยวจะหาว่าเราขี้บ่นลองอ่านความเห็นของคนที่เคยเข้าพัก hostel แห่งนี้ดูก็ได้ ตามนี้เลย

www.hihostels.com/dba/hostels-Paris---Clichy-020024.en.htm#tabs=3

video credit to: youtube by Busfotodotnl
Photos credit to: http://en.wikipedia.org/wiki/File:Carte_M%C3%A9tro_de_Paris.jpg, http://www.hihostels.com/dba/hostels-Paris---Clichy-020024.en.htm#