วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ทัวร์ขาลากเมืองผู้ดี...ทำผู้จัดทัวร์ป่วยหนัก (2)

ถ้าพูดถึงเรื่อง "เดินแบบขาลาก" ของพวกเราแล้วละก็ คงเริ่มต้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่ช่วงเกือบเที่ยงของวันแรกที่เราไปถึงคือวันที่ ๒๖ มีนาคม ๕๔ หลังจากเสร็จสิ้นการเช็คอินที่ YHA London Central โดยเราต้องฝากกระเป๋าที่ห้องเก็บสัมภาระเอาไว้ก่อนเพราะเวลาที่จะเข้าห้องได้คือบ่ายสองเป็นต้นไป รวมทั้งจัดการเจ้า "Panini" ให้เป็นอาหารกลางวันของพวกเราแบบง่ายๆ เราก็ไม่รีรอที่จะไปตลาด Portabello ถนน Portabello Road ย่าน Notting Hill






พอดีว่าวันที่เราไปคือวันเสาร์นั้นเป็นตลาดนัดใหญ่พอดี มีของขายทุกประเภทตั้งแต่ของกิน ของใช้ต่างๆ รวมไปถึงของเก่า และช่วงเวลาที่ไปมีทั้งคนอังกฤษเองและนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาคลาคล่ำไปหมด จนกลัวว่าคนในกลุ่มเราจะหลงกัน นอกจากการเที่ยวชมตลาดที่เหมือนตลาดจตุจักรบ้านเราแล้ว พวกพี่ๆ ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับฮิวจ์ แกรนน์ พระเอกหนังเรื่อง Notting Hill ก็ยังอุตส่าห์ได้ไปถ่ายรูปหน้าร้านหนังสือท่องเที่ยว ที่ตามท้องเรื่องเขาสมมติให้เป็นร้านหนังสือของ วิล แทกเกอร์ พระเอกของเรื่อง (อันที่จริงก็ไม่ใช่เฉพาะพี่ๆ เขาหรอก ผู้เขียนเองก็ชอบหนังเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ชอบตรงประโยคเด็ดของวิล แทกเกอร์ ที่พูดกับแอนนา สก็อต ที่แสดงโดยจูเลีย โรเบิร์ตส์ โดยในหนังเธอรับบทตรงกับชีวิตจริงคือเป็นดาราสาวชื่อดังของฮอลลีวู้ดที่มาตกหลุมรักวิล แทกเกอร์ ที่ว่า "I live in Notting Hill. You live in Beverly Hills. Everyone in the world knows who you are; my mother has troubles remembering my name." คนเขียนบทสนทนาของตอนนี้นี่ช่างคิดดีจริงๆ เลยทำให้ประโยคข้างต้นเป็น movie quote ที่มีชื่อเสียงและคนมักจะจำได้ เดินเที่ยวชมตลาด Portabello และย้อนรำลึกถึงหนังเรื่อง Notting Hill บริเวณ Notting Hill เป็นที่พอใจแล้ว เราก็เดินกลับมาทางเดิมเพื่อที่จะลงรถไฟใต้ดินสถานีที่เรามาลงก่อนหน้าที่จะมาตลาด Portabello คือ สถานี Notting Hill Gate เพื่อจะต่อไปยังสถานี Tower Hill เมื่อเดินทางมาถึงสถานี Tower Hill แล้ว ดูท่าทีพี่ๆ แต่ละคนก็ยังมีกำลังวังชาดีอยู่ นอกจากนี้ยังสนุกสนานกับการถ่ายรูปบริเวณสถานี Tower Hill เป็นอย่างยิ่ง เพราะฝั่งตรงกันข้ามของถนนเราจะมองเห็นความอลังการของ Tower of London ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าเหมาะแก่การที่พี่ๆ ทั้งหลายจะชักภาพตัวเองโดยมี Tower of London เป็นฉากอยู่ด้านหลังเป็นอย่างยิ่ง (อ่ะนะ Tower ก็เก๊าเก่า สร้างมาเป็นไม่รู้กี่ร้อยกี่พันปีแล้ว คนรึก็...ละไว้ในฐานที่เข้าใจ เหอะ เหอะ)




ถ่ายรูปกับอาคารเก่าๆ อันเหมาะสมกับช่วงวัยแล้ว backpackers กลุ่มนี้ก็ได้เวลาเดินไปสถานีรถไฟชานเมืองที่ชื่อว่า Docklands Light Railways หรือ DLR โดยสถานีที่เราไปขึ้นชื่อว่าสถานี Tower Gateway ซึ่งระยะทางเดินไม่ไกลจากสถานีรถไฟใต้ดิน Tower Hill ซึ่งเป้าหมายของเราคือ สถานี Cutty Sark for Maritime Greenwich ดูจากชื่อสถานีเป้าหมายของเราก็คงไม่ต้องสาธยายอะไร เพราะที่เที่ยวแห่งต่อไปของเราคือกรีนิชนั่นเอง ที่ำกรีนิชแห่งนี้ นอกจากจะเป็นที่ตั้งของ Royal Observatory อันเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นลองติจูดศูนย์องศาหรือ Prime Meridian ที่เรารู้จักกันดีว่าเป็นเส้นแบ่งเวลาของโลกชื่อ Greenwich Mean Time หรือ GMT ที่ในภาพมีคนไปยืนตรงเส้นแถบสีเงินเยอะๆ ยังมีพิพิธภัณ์อื่นๆ อีกหลายแห่ง รวมไปถึงตลาดกรีนิชที่ขายของกินหลากหลายเชื้อชาติ ซึ่งก็รวมไปถึงอาหารไทยของเราด้วย หลังจากเดิน (ไม่ีรู้เดินไปกี่กิโลเมตรแล้วสำหรับวันแรก) ชมสถานที่ต่างๆ ของกรีนิชแล้ว เราก็เปลี่ยนบรรยากาศจากการนั่งรถไฟมานั่งเรือดูบ้าง โดยเรือโดยสารที่เราใช้บริการเป็นของ Thames Clipper ซึ่งเป็นเรือโดยสารสาธารณะเหมือนกับเรือด่วนเจ้าพระยาบ้านเรา แต่ราคาค่าโดยสารเขาคิดราคาเดียวกันหมดไม่ได้คิดเป็นระยะทางที่เรานั่ง สำหรับผู้ถือ Oyster Card ลดให้อีก ๕๐ เพนนี

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เอาเวลาที่ไหนไปเขียนค๊ะ...ณ เวลาที่โพสต์บทความตอนนี้...น่าจะเป็นเวลาที่ผู้เขียนกำลัง ลั้นล้า อยู่ที่ เซอร์แมตต์ มิใช่หรือ...
ทำงานและแบ่งเวลาไปเที่ยวให้สนุกนะ จะได้กลับมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง