วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เปิดลิ้นชักความทรงจำที่แคนาดา ตอน 11: MACKPACKER (4)

ผู้เขียนออกจากออตตาวาเพื่อเดินทางต่อไปยังมอนทรีอัลและควิเบกซิตี้ด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยแจ่มใสนัก ไม่ได้เป็นเพราะไม่ถูกอัธยาศัยผู้คนชาวคาเนเดียนในเมืองหลวงแห่งนี้แต่อย่างใด กลับกลายเป็นว่าคนที่ทำให้เส้นกราฟอารมณ์ของผู้เขียนตกอยู่ในแดนลบดันเป็นคนไทยด้วยกันเอง ซึ่งจะไม่เล่าในรายละเอียดเพราะอาจส่งผลกระทบต่อบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ และผู้เขียนคิดว่ามันเป็นการไม่ยุติธรรมที่นำเอาเรื่องราวในแง่ไม่ดีของผู้อื่นมานำเสนอในบล็อกของเราแต่ฝ่ายเดียว โดยผู้อื่นไม่มีโอกาสได้ชี้แจง

วันที่ 16-22 ธันวาคม 2543 (มอนทรีอัล-ควิเบกซิตี้)

ผู้เขียนเดินทางออกจากออตตาวาประมาณสิบเอ็ดโมงครึ่งของวันที่ 16 ธันวาคม ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงครึ่งก็มาถึงมอนทรีอัล

อากาศที่มอนทรีอัลช่วงนั้นไม่ค่อยจะดีนักนอกจากจะมีหิมะแล้วก็ยังมีฝนโปรยปรายเป็นบางช่วงอีกด้วย ทำให้การเดินเท้าไปตามสถานที่ต่างๆ ค่อนข้างลำบากเพราะพื้นถนนและทางเท้าลื่นมาก

เมื่อเริ่มมาถึงมอนทรีอัลผู้เขียนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความเป็นฝรั่งเศสของที่นี่ได้หลากหลายรูปแบบ เริ่มต้นจากเรื่องของภาษาก่อนเป็นอันดับแรก โดยป้ายชื่อถนน ป้ายประกาศบอกชื่อสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เป็นชื่อฝรั่งเศสหมดจนผู้เขียนไม่กล้าอ่านเพราะกลัวอ่านผิด ดังตัวอย่างชื่อย่านหรือเขตต่างๆ ในมอนทรีอัล

Ahuntsic-Cartierville, Anjou, Côte-des-Neiges–Notre-Dame-de-Grâce,Lachine, LaSalle, Le Plateau-Mont-Royal, Le Sud-Ouest, L'Île-Bizard–Sainte-Geneviève, Mercier–Hochelaga-Maisonneuve, Montréal-Nord, Outremont, Pierrefonds-Roxboro, Rivière-des-Prairies–Pointe-aux-Trembles, Rosemont–La Petite-Patrie, Saint-Laurent, Saint Leonard, Verdun, Ville-Marie and Villeray–Saint-Michel–Parc-Extension.

มอนทรีอัล หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า City of Montreal ชื่อภาษาฝรั่งเศสว่า Ville de Montréal เป็นเมืองที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาหลักที่แพร่หลายมากที่สุดเป็นลำดับสองรองลงมาจากปารีส นอกจากนี้มอนทรีอัลยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางด้านการค้า การลงทุน ที่สำคัญของแคนาดาเป็นลำดับที่สองรองจากโตรอนโต สำหรับในเรื่องสถาปัตยกรรม อาคารตึกรามบ้านช่องของเมืองนี้ก็น่าสนใจมากไม่แพ้เรื่องอื่น ที่มอนทรีอัลแห่งนี้เขาสามารถอนุรักษ์สิ่งที่บ่งบอกของชาติกำเนิดของคนมอนทรีอัลได้เป็นอย่างดี โดยในส่วนที่เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ของเมือง หรือที่เขาเรียกว่า Old Montreal นั้นจะเป็นที่ตั้งของโบสถ์ วิหาร หรือสถานที่ในยุคเก่า เช่น Notre-Dame Basilica ที่นักท่องเที่ยวมักจะไม่พลาดที่จะเข้าเยี่ยมชม โดยในบริเวณเมืองเก่าของมอนทรีอัลมีสถาปัตยกรรมเก่าๆ มากมายรวมถึงพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าความเป็นมาของเมืองนี้ด้วย ซึี่งในแต่ละสถานที่มีที่ตั้งไม่ไกลกันนัก นักท่้องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะเดินเท้าในการซึมซับบรรยากาศเพื่อจินตนาการย้อนกลับไปยังปี ค.ศ. 1642 :ซึ่งเป็นปีที่เริ่มสร้างเมืองแห่งนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ชอบเดินที่นี่เขาก็จะมีรถม้าไว้สำหรับบริการด้วย














สำหรับผู้ที่อยากมองทัศนียภาพสวยๆ แบบ panorama ของ downtown มอนทรีอัลสามารถเดินทางขึ้นไปชมวิวได้ที่ Mount Royal ที่ซึ่งเป็นแหล่งอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวเพื่อให้เป็นที่ฟอกปอดของคนเมืองมอนทรีอัล เพราะนอกจากจะเป็นสุสานสำหรับฝังศพในนิกายคาทอลิกแล้ว ที่นี่ยังมีสวนสาํธารณะขนาดใหญ่ถึงสามแห่ง โดยผู้ที่ออกแบบภูมิสถาปัตย์สวนสาธารณะบน Mount Royal แห่งนี้ เป็นบุคคลเดียวกันกับผู้ออกแบบภูมิสถาปัตย์สวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงอย่าง Central Park ในนครนิวยอร์กด้วย




นอกเหนือจากสิ่งก่อสร้างเก่าแก่ที่ยกตัวอย่างมาข้างต้นแล้ว สิ่งก่อสร้างร่วมสมัยที่มอนทรีอัลก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นสนามกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนเมื่อคราวที่มอนทรีอัลเป็นเจ้าภาพเมื่อปี ค.ศ. 1976 ซึ่งปัจจุบันสนามกีฬาแห่งนี้ก็ยังคงใช้อยู่ และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกับการเดินเที่ยวห้างสรรพสินค้าเพื่อจับจ่ายสินค้าโดยเฉพาะบรรดาสตรีที่ชอบหาซื้อเครื่องสำอางแบรนด์เนมทั้งหลาย มอนทรีอัลก็สามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้ เพราะที่นี่มี the underground city ที่เป็น underground complex ใหญ่ที่สุดในโลก โดย underground city แห่งนี้มีจุดเชืีอมต่อทั้งรถไฟใต้ดินหลากหลายสถานี จุดเชื่อมต่อของอาคาร สถานที่ทำงาน ร้านค้าสุด hip หรือห้างสรรพสินค้า chain ดังๆ ของแคนาดา เช่น the Bay, Eaton Centre ห้าง retailer อย่าง Sears Canada เป็นต้น รวมไปถึงธนาคาร และสารพัดสรรพสิ่ง สำหรับความกว้างของเมืองใต้ดินแห่งนี้กว้างประมาณสิบสองตารางกิโลเมตร และประโยชน์ใช้สอยสูงสุดที่ชาวเมืองมอนทรีอัลน่าจะชอบเมืองใต้ดินแห่งนี้น่าจะเป็นช่วงฤดุหนาวที่เมืองใต้ดินต้องรองรับการเดินทางของชาวเมืองเฉลี่ยตกวันละ 500,000 คน ที่ต้องการหลีกเลี่ยงอากาศหนาวเย็นบนพื้นดิน

















เพื่อให้เห็นภาพความสวยงามของเมืองแห่งนี้ ท่านสามารถเที่ยวทั่วเมืองมอนทรีอัลได้ภายในสองนาทีครึ่งตามวีดีโอคลิปข้างล่างนี้






กลิ่นอายแบบฝรั่งเศสถัดมาน่าจะเป็นเรื่องของอาหารขึ้นชื่อและเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ ที่มีชื่อเรียกว่า Shepherd’s pie, or ‘pate Chinois’ (ขอความกรุณาผู้สันทัดฝรั่งเศสอ่านเอาเองแล้วกัน) ซึ่งเจ้าพายนี้จะใส่ไส้ข้างในสามชั้น ชั้นล่างสุดจะเป็นเนื้อบดผสมกับหัวหอมชิ้นเล็กๆ ชั้นกลางจะเป็นเหมือนราดด้วยซุปครีมข้าวโพด ส่วนชั้นบนสุดจะโปะด้วยมันฝรั่งบดซึ่งบางทีก็โรยด้วยผงพริกหยวก เครื่องเคียงที่กินกับพายก็มีมากหลายแล้วแต่ความชอบ เช่น แตงกวาดอง ไข่ บีท หรือบางครั้งก็กินกับคุ๊กกี้ที่ทำมาจาก Maple Syrup ก็แล้วแต่จะชอบกันแบบไหน





ทีนี้กลับมาเรื่องที่ใกล้ตัวผู้เขียนในเรื่องที่พักบ้าง ในการมาเที่ยวที่มอนทรีอัลครั้งนี้ไม่ต้องพบกับความกระอักกระอ่วนใจเกี่ยวกับเรื่องความลี้ลับของ hostel เหมือนที่ออตตาวาแต่อย่างใด เพราะ Auberge Jeunesse เป็น hostel ธรรมดาๆ ที่ไม่ได้ดัดแปลงมาจากอาคารเก่าที่มีประวัติน่ากลัวแต่อย่างใด นอกจากนี้สิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นเรื่องห้องพัก ห้องครัว มีสภาพดีกว่าที่ออตตาวาค่อนข้างมาก










นอกจากนี้รูมเมทของผู้เขียนที่เป็นนักเรียนจากออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และเนปาลสามคนก็มีอัธยาศัยต้องกัน คุยกันถูกคอจนพากันไปไหนต่อไหนด้วยกันได้เหมือนคนเคยรู้จักกันมานานอย่างนั้นเลย สิ่งเหล่านี้เลยเป็นการสร้างความประทับใจให้กับผู้เขียนที่มีต่อเมืองปารีสน้อยแห่งนี้

ผู้เขียนกล่าวคำอำลาเพื่อนร่วมห้องพักสามคนในตอนสายๆ ของวันที่ยี่สิบธันวาคมเพื่อออกเดินทางต่อไปยังควิเบกซิตี้ต่อไป

Photos credit to: http://highnotes.concordia.ca/2007/images/about/B37.jpg, http://www.bonjourquebec.com/fileadmin/Image/decouvrez/experiences/villes/montreal/tq_002754_g.jpg, http://xwdesigns.com/blog/wp-content/uploads/2009/06/800px-Mount_Royal_Montreal_Lookout.jpg, http://www.montreal.com/top/index.html, http://www.dkimages.com/discover/previews/988/50252008.JPG, http://www.play-montreal.com/wordpress/wp-content/uploads/2007/11/mtlsouterrain2_maxymegdelisle.jpg, http://static.squidoo.com/resize/squidoo_images/-1/lens2285644_1230757640shepherds-pie-recipes.jpg, http://images.google.co.th/imgres?imgurl=http://images.hostelworld.com/images/hostels/5273_1.jpg&imgrefurl=http://www.hostelworld.com/hosteldetails.php/Auberge-de-Jeunesse-Maeva-Montreal/Montreal/5273&usg=__vQuu7DztThsUhzlPRGIWvcfxp8M=&h=375&w=500&sz=237&hl=en&start=5&sig2=K3OYlTnpTfj-k2o5Qq7JMQ&um=1&tbnid=JWPFsTHQuBloGM:&tbnh=98&tbnw=130&prev=/images%3Fq%3DAuberge%2BJeunesse%2Bhostel%2Bin%2BMontreal%26hl%3Den%26rlz%3D1T4ADRA_enTH348TH348%26um%3D1&ei=wjYvS5rcEYrW7AOxzpjsBw

video credit to youtube by Virtual Canada

ไม่มีความคิดเห็น: