วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ราชาของราชาทั้งปวง (King of Kings)

วันนี้เป็นวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๒ เป็นวันที่ประชาชนคนไทยมีความสุขยิ่งเมื่อได้เห็นในหลวงเสด็จออกมหาสมาคม เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๘๒ พรรษา ผู้เขียนและพ่อแม่ได้ดูการถ่ายทอดสดจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจนับตั้งแต่เสด็จออกจากโรงพยาบาลศิริราชจนกระทั่งเสร็จสิ้นพระราชพิธีและเสด็จกลับไปประทับที่โรงพยาบาลศิริราช

เราสามคนพ่อแม่ลูกดูการถ่ายทอด ซึ่งบางช่วงบางตอนไ้ด้มีการสัมภาษณ์ประชาชนที่รอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอยู่เต็มฝั่งถนนตลอดเส้นทาง เห็นบางคนน้ำตาซึม บางคนร้องไห้ด้วยความปลื้มใจที่ได้เห็นในหลวง ผู้เขียนเห็นว่าตอนนั้นแม่มีน้ำตาซึมๆ ออกมาด้วย

ครอบครัวเราอาจจะดูเป็นครอบครัวอนุรักษ์นิยมและเป็น royalist จัดมากๆ ในสายตาของคนหัวสมัยใหม่ที่ไม่รู้จักกำพืดและหัวนอนปลายเท้าของตนเองที่ตอนนี้เขานิยามตัวเองว่าพวกไม่นิยมเจ้าจะเป็นไปด้วยเหตุผลประการใดไม่ว่าจะเป็นพวกนิยมบูชาลัทธิกบฏผีบุญหน้าสี่เหลี่ยมศตวรรษที่ ๒๑ หรือพวกหัวนอกแต่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เก่งแต่ทฤษฎีแต่ปฏิบัติไม่เอาไหน นิยมชมชอบรูปแบบการปกครองแบบตะวันตกอยากจะมีการปกครองแบบตะวันตกโดยไม่มองบริบทของสังคมไทยว่าเหมาะหรือไม่

สำหรับตัวผู้เขียนมีเหตุผลหนึ่งที่อธิบายได้ว่าทำไมถึงรักและเคารพเทิดทูนในหลวงมาก อาจจะเป็นเพราะว่าในช่วงหนึ่งของชีวิตได้เคยปฏิบัติงานอยู่ในหน่วยงานราชการที่มีที่ตั้งอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะได้เข้าเฝ้าฯ ผู้เขียนรู้สึกว่าตัวเองมีบุญมากที่ได้เคยเข้าเฝ้าในหลวงอย่างใกล้ชิดถึงสองครั้งเมื่อคราวที่ท่านเสด็จมาที่พระอุโบสถวัดพระแก้ว ผู้เขียนได้เห็นและได้สัมผัสสิ่งที่คนเฒ่าคนแก่เขาเรียกว่าบุญญาบารมีที่เปล่งออกมาให้เราสัมผัสได้ไม่ว่าจะออกมาจากสีพระพักตร์ หรือพระวรกายยามเมื่อองค์พระประมุขเสด็จผ่าน และอีกครั้งหนึ่งที่ผู้เขียนจำได้แม่นยำคือเมื่อคราวที่ท่านเสด็จมาที่วัดพระแก้ว และท่านกำลังดำเนินอยู่ตามลาดพระบาท ซึ่งตลอดสองฝั่งลาดพระบาทมีประชาชนถวายเงินเพื่อเสด็จพระราชกุศล โดยในหลวงท่านทรงยื่นพระหัตถ์เพื่อรับเิงินเหล่านั้นด้วยพระองค์เอง ผู้เขียนเห็นดังนั้นจึงหยิบเงินขึ้นมาจำนวนหนึ่งเพื่อตั้งใจจะถวาย พร้อมตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่คนไทยจำนวนมากปวารณาไว้นั่นคือในชีวิตหน้าถัดๆ ไป ขอให้ได้เกิดเป็นพสกนิกรของในหลวงพระองค์นี้เหมือนอย่างที่เป็นพสกนิกรของท่านในชีวิตนี้

ผู้เขียนรู้สึกหัวใจเต้นแรงเมื่อท่านเสด็จมาใกล้ตรงที่ผู้เขียนนั่งอยู่ และเมื่อท่านเสด็จมาถึงจุดที่ผู้เขียนนั่งอยู่ความรู้สึกของผู้เขียนเหมือนว่างเปล่าตัวเบาไม่มีความรู้สึก เมื่อได้มีโอกาสถวายเงินในมือของตนเองพร้อมได้มีโอกาสสัมผัสพระหัตถ์องค์พระประมุขเมื่อท่านยื่นพระหัตถ์มาเพื่อรับเงินที่ผู้เขียนถวาย แต่ความรู้สึกหนึ่งที่ผู้เขียนรู้สึกได้ในขณะนั้นคืออุ้งพระหัตถ์ของบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นพระราชา เป็นพระมหากษัตริย์มิได้อ่อนนุ่มอย่างที่จินตนาการว่าจะเหมือนอุ้งมือของพระราชาในเทพนิยายที่ใช้ชีวิตสุขสบายอยู่แต่ในรั้วในวังแต่อย่างใด กลับตรงกันข้ามผู้เขียนรู้สึกว่าอุ้งพระหัตถ์ของในหลวงนั้นถ้าจะว่าตามประสาชาวบ้านก็คือ สากและหยาบกระด้างเหมือนผู้ที่ต้องใช้มือในการทำงานอย่างมาก สิ่งที่ผู้เขียนสัมผัสได้นี้ก็ไม่แปลกอะไรเพราะพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ที่ได้ทรงบำเพ็ญมาตลอดหกสิบกว่าปีเป็นสิ่งพิสูจน์แล้วว่าพระองค์ได้อุทิศพระวรกายและความอุตสาหะอย่างหนักเพื่อพสกนิกรและประเทศไทยของเรามีมากมายเพียงใด

ในวโรกาสนี้ผู้เขียนคงเหมือนกับคนไทยทั้งมวลที่ตั้งจิตตั้งใจอธิษฐานขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์โดยเร็ว ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน หมู่มารที่คิดร้ายต่อพระองค์ท่านและชาติบ้านเมืองขอให้พ่ายแพ้ต่อบุญญาบารมีของพระองค์ สถิตย์อยู่เป็นเจ้าอยู่หัวของคนไทยตราบนานเท่านาน






Video Credit to youtube by US Embassy in BKK.

ขอบคุณวีดีโอจาก youtube โดย Sk Sutawee

(ผู้เขียนต้องขอขอบคุณผู้อ่านที่คลิกเข้ามาอ่านเรื่องราวสรรเพเหระของผู้เขียนทุกท่าน ดูจาก counter ก็มีคน follow อยู่พอควร ระยะนี้ต้องขออภัยคนอ่านที่รอการ updated เรื่องเปิดลิ้นชักความทรงจำที่แคนาดาตอน MACKPACKER ด้วย คงอีกประมาณสามสี่วันถึงจะมา updated ได้เพราะตอนนี้ร่างกายและหัวสมองไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมเพราะเมื่อเร็วๆ นี้เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับตัวผู้เขียนเอง สถานที่ก็ไม่ใช่ที่ไหนก็คือที่โรงพยาบาลศิริราช วันนั้นพาแม่ไปหาหมอเพื่อตรวจสุขภาพไต ทำธุระเสร็จแล้วกำลังจะเดินกลับมาที่จอดรถนอกโรงพยาบาล ด้วยอารามจะรีบข้ามถนนทำให้ตัวเองไปสะดุดกับฝาท่อระบายน้ำที่มันชำรุดอยู่ ล้มคว่ำแล้วเอาหน้าลง เลือดไม่รู้มาจากไหนต่อจากไหนไหลเลอะเทอะเต็มเสื้อผ้าไปหมด สรุปวันนั้นแม่ซึ่งเป็นคนป่วยต้องเป็นฝ่ายพยุงคนดีอย่างผู้เขียนไปหน่วยฉุกเฉินของโรงพยาบาล ตอนนี้เลยยังไม่ค่อยหายดีเพราะปวดเมื่อยจากบาดแผลและมีอาการไข้อยู่บ้าง แต่คงจะดีขึ้นในอีกไม่ช้า)

ไม่มีความคิดเห็น: