วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554

พลายบุญหลง

ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา มีข่าวอยู่หนึ่งข่าวที่ผู้เขียนให้ความสนใจเป็นพิเศษและรู้สึกกระทบใจตัวเองอย่างมาก ถึงตรงนี้ผู้อ่านหลายคนที่รู้จักผู้เขียนดีคงเดาว่าต้องเกี่ยวกับเรื่องการเมืองแบบ animal farm ในประเทศนี้แน่ๆ จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องสัตว์การเมืองประเภทนั้นหรอก แต่เป็นเรื่องของสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทยมาตั้งแต่สมัยบรรพกาลนั่นก็คือช้างนั่นเอง

ช้างที่ตกเป็นข่าวในช่วงนี้มีคนตั้งชื่อให้ว่า "พลายบุญหลง" โดยพลายบุญหลงเป็นลูกช้างป่าอายุประมาณ ๓ ถึง ๖ เดือน ลูกช้างในช่วงวัยเท่าพลายบุญหลงถือว่ายังเป็นช้างเด็กมากๆ และการดำรงชีวิตอยู่ของช้างเด็กวัยนี้ต้องอาศัยนมแม่เป็นหลัก ถึงจะอยู่รอดปลอดภัยจนโตเป็นช้างพลายตัวโตๆ ในอนาคต แต่ก็ให้มีเหตุทำให้พลายบุญหลงต้องพลัดพรากจากอกแม่ที่อบอุ่น เมื่อมีน้ำป่าไหลแรงพัดพาเจ้าช้างป่าตัวน้อยนี้ที่กำลังหากินอยู่กับแม่ช่วงกลางคืนในป่าบริเวณ "เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง" จังหวัดเลย ทำให้เจ้าช้างตัวนี้หลงเข้ามาบริเวณชุมชนของชาวบ้าน

เมื่อชาวบ้านจับตัวช้างน้อยตัวนี้ได้ (ลักษณะนามของช้างป่าเรียกว่า "ตัว" ในขณะที่ช้างบ้านที่ถูกเลี้ยงไว้จะเรียกลักษณะนามเป็น "เชือก") ก็ตั้งชื่อให้เสร็จสรรพว่า "พลายบุญหลง" พร้อมกับส่งให้ "โครงการฟื้นฟูอาหารช้างป่าภูหลวง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง" อำเภอภูเรือ จ. เลย ดูแลพลายน้อยนี้ต่อไป

เมื่อแรกมาถึงพลายบุญหลงค่อนข้างผอม ถ่ายเหลว มีบาดแผลบริเวณปากและลำคอ ทำให้สัตวแพทย์ต้องคอยประคบประหงมเพราะช้างเล็กๆ อย่างนี้มีความเสี่ยงกับชีวิตอยู่เหมือนกันหากต้องดำรงชีวิตอยู่โดยขาดน้ำนมจากแม่ช้าง และมีสภาพย่ำแย่อย่างที่กล่าว

ตัวผู้เขียนเองโดยพื้นฐานเป็นคนใจอ่อนกับสิ่งมีชีวิตที่กำลังประสบกับความทุกข์ยากไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ แต่ก็ไม่ใช่ทุกกรณีเสมอไป แต่สำหรับพลายบุญหลงนี้ ตอนแวบแรกที่ได้เห็นภาพพลายบุญหลงในคลิบวิีดีโอที่สำนักข่าวท้องถิ่นเมืองเลยเขาโพสประกอบหัวข้อข่าว มันรู้สึกกระทบใจตัวเองอย่างแรงซึ่งผู้เขียนเองก็อธิบายไม่ถูก ผู้เขียนเองเชื่อว่าทุกคนคงต้องเคยเกิดความรู้สึกอย่างนี้

ในช่วงนั้นหลังจากได้ทราบว่าทางศูนย์ฯ ขอความร่วมมือผู้ใจบุญช่วยบริจาคเงินเพื่อช่วยค่านม ค่ายาสำหรับพลายบุญหลง ผู้เขียนเองไม่ได้รีรอเลยที่่จะร่วมบริจาค และก็ดีอยู่อย่างที่ธนาคารที่ทางศูนย์ฯ เปิดบัญชีไว้มีสาขาตั้งอยู่ที่ทำงานผู้เขียนพอดี เรื่องก็เลยง่าย

(คลิบข้างล่างเป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ย้ายพลายบุญหลงไปเลี้ยงไว้ที่คอกกักของศูนย์ฯ เพื่อให้ห่างไกลจากการรบกวนของชาวบ้านและเด็กๆ)




และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผู้เขียนก็คอยติดตามข่าวของเจ้าพลายบุญหลงมาโดยตลอดจากเว็บไซท์ข่าวท้องถิ่นของเมืองเลย ทำให้ทราบว่าสุขภาพของพลายบุญหลงเริ่มดีขึ้น แข็งแรงขึ้น แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังอยู่ พร้อมกันนั้นผู้เขียนก็ได้ทราบว่าทางสัตวแพทย์ขอบริจาคโปรตีนผงยี่ห้อดังจำนวนมาก เพื่อเสริมสร้างสุขภาพของพลายบุญหลง

(คลิบข้างล่างเป็นช่วงเวลาที่พลายบุญหลงได้รับการอนุบาลในคอกกักของศูนย์ฯ เพื่อให้สัตวแพทย์คอยดูแลและเฝ้าสังเกตอาการ)




มาถึงตรงนี้ผู้เขียนต้องขอบคุณพี่ริน (พี่ที่ไปเที่ยวด้วยกันที่ยุโรป) ที่ช่วยกรุณาบริจาคเงินสมทบเพื่อช่วยซื้อโปรตีนให้พลายบุญหลง และขอบคุณเพื่อนแป๋วที่เป็นธุระจัดหาโปรตีนที่ว่าให้ผู้เขียนได้ส่งไปให้พลายบุญหลงจำนวนหนึ่ง ผู้เขียนรู้แล้วว่าความรู้สึกอิ่มเอมใจในฐานะที่เป็นผู้ให้นั้นเป็นอย่างไร หลังจากที่ผู้เขียนได้เพียรพยามติดตามตรวจสอบสถานะการเดินทางของกล่องพัสดุที่ผู้เขียนส่งไปให้พลายบุญหลงตั้งแต่วันพุธที่ ๑๔ กันยายน ในเว็บไซท์ของไปรณีย์ไทย เมื่อกล่องพัสดุที่ว่ามีสถานะการนำจ่ายที่ถึงมือผู้รับเรียบร้อยแล้ว (แน่นอนว่าเจ้าพลายบุญหลงไม่ได้เซ็นรับพัสดุเองหรอก ถึงแม้ว่าหน้ากล่องจะระบุชื่อพลายบุญหลงเป็นผู้รับก็ตามที)






หลังจากเห็นข้อความของสถานะของพัสดุที่ว่าแล้ว ผู้เขียนรู้สึกเหมือนตัวเองได้รับของขวัญทางด้านจิตใจที่ดีที่สุดเท่าที่เคยได้รับมาเลยในช่วงเวลาที่เดือนนี้เป็นเดือนเกิดของผู้เขียน ผู้เขียนคิดว่าบางครั้งความสุขในการฉลองวันเกิดของคนเราก็คงไม่ได้ขึ้นอยู่กับการนำเงินไปซื้อของขวัญที่หรูหราราคาแพง แต่ถ้าเงินจำนวนนั้นสามารถที่จะต่อชีวิตหรือบรรเทาความทุกข์ยากให้กับเพื่อนร่วมโลกหรือตามคำพระท่านว่าคือเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย แค่นี้ก็มีความสุขล้นเหลือแล้ว

video credit to youtube by linkloei

photo credit to http://www.golokdo.go.th/index.php?mo=3&art=514962

หมายเหตุ: เข้ามาเพิ่มเติมข้อมูล ณ วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๔ ทางศูนย์ฯ ได้ย้ายพลายบุญหลงไปอยู่ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยที่จังหวัดลำปางแล้ว หลังจากไม่สามารถตามหาแม่ช้างป่าของพลายบุญหลงได้ พลายบุญหลงคงต้องปรับสภาพการใช้ชีวิตจากช้างป่าเป็นช้างเลี้ยงต่อแต่นี้ไป



รายละเอียดข่าวจาก manager online

"ลำปาง - ลูกช้างป่าพลายบุญหลง อายุ 4 เดือนที่พลัดหลงฝูงจากป่าภูหลวง ถูกส่งมาเลี้ยงดูที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยลำปางแล้ว ทางศูนย์เตรียมหาแม่รับให้ หลังลูกช้างไม่ได้ดื่มนมแม่เกรงจะส่งผลกระทบด้านการเจริญเติบโต

รายงานข่าวจากจังหวัดลำปางแจ้งว่า ลูกช้างป่าพลายบุญหลง อายุ 4 เดือน ซึ่งพลัดหลงฝูงในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เข้ามาในหมู่บ้านบ้านเลยวังไสย์ ต.เลยวังไสย์ จ.เลย หลังเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก จนชาวบ้านแจ้งให้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงทราบ จึงได้มีจัดชุดปฏิบัติการ 5 ชุดเพื่อตามหาโขลงแม่ช้างที่คาดว่าลูกช้างจะหลงออกมาตามแนวชายป่า ด้วยการตามรอยเท้าและเสียงร้องตามหาลูกของแม่ช้าง แต่ไม่พบว่ามีโขลงแม่ช้างที่มีลูกเล็กแต่อย่างใด ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องเลี้ยงดูลูกช้างพลายไว้ในเขตอนุรักษ์ฯ

แต่เนื่องจากลูกช้างยังเล็กและยังไม่หย่านม เกรงว่าหากลูกช้างไม่ได้ดื่มนมแม่ก็อาจจะมีโอกาสเสียชีวิตได้ ทางเขตจึงได้พยายามติดตามหาโขลงช้างที่มีลูกช้างพลัดหลงเพื่อนำลูกช้างกลับคืนแต่สุดท้ายก็ติดตามหาไม่พบ

ดังนั้น ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ซึ่งนำโดยนายชัยณรงค์ ดูดดื่ม หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง และนายวัชระ ธรรมสอน หัวหน้าโครงการฟื้นฟูอาหารช้างป่าภูหลวง พร้อมด้วยทีมสัตว์แพทย์ศูนย์ช่วยเหลืออาหารช้างป่าภูหลวง ได้นำลูกช้างพลายบุญหลง เดินทางมาถึงศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง เมื่อ 1 ต.ค.54 ที่ผ่านมา เพื่อให้ทางศูนย์ฯ เป็นผู้ดูแลต่อไป

เบื้องต้นทางทีมสัตว์แพทย์ ได้นำลูกช้างไว้ในโรงเรือนและพักผ่อนก่อนหนึ่งคืน หลังจากนั้นในวันพรุ่งนี้จะได้หาช้างมาเทียบเพื่อหาช้างแม่รับให้กับลูกช้างพลายต่อไป และหากได้แม่รับที่สามารถให้นมกับลูกช้างได้ก็จะเป็นการดี เพราะลูกช้างยังต้องดื่มน้ำนมแม่เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน

สำหรับลูกช้างพลายบุญหลง มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง แต่อาจจะขาดสารอาหารบ้าง แต่โดยรวมถือว่าสุขภาพดี และสามารถเข้ากับคนได้ง่าย ไม่ดุร้ายและไม่ชอบอยู่ในที่ที่มีการคุมขัง"

เครติดรูปภาพและเนื้อหาข่าวจาก manager online



ปัจจุบันพลายบุญหลงมีแม่รับแล้วชื่อพังพุ่มพวง ช่างเป็นข่าวดีจริงๆ ดีใจด้วยนะเจ้าช้างน้อยขอให้โตไวๆ

“พลายบุญหลง” ได้แม่รับแล้ว
วันศุกร์ ที่ 07 ต.ค. 2554




ลำปาง 7 ต.ค.- ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยหาแม่รับให้ช้างน้อยหลงแม่จากป่าภูหลวงได้เรียบร้อยแล้ว ชื่อ พังพุ่มพวงกำลังตั้งท้อง มีประวัติดี เคยเป็นแม่รับให้พลายปฐมภพช้างเชือกแรกของเอเชียเกิดจากผสมเทียมน้ำเชื้อสด

นายสัตวแพทย์สิทธิเดช มหาสาวังกุล หัวหน้าฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จังหวัดลำปาง เปิดเผยถึงพลายบุญหลง อายุ 4 เดือน พลัดหลงจากแม่ในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูหลวง จ.เลย และถูกส่งมาให้อยู่ในความดูแลของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ระหว่างจัดหาแม่รับให้กับลูกช้าง ทางศูนย์ฯ ให้นมถั่วเหลืองกับพลายบุญหลงวันละกว่า 3 ลิตร ทดแทนนมแม่และเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ขณะนี้ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว เนื่องจากหาแม่รับช้างได้เรียบร้อย คือ พังพุ่มพ่วง อายุ 30 ปี กำลังท้องอยู่ 12 เดือน ซึ่งสามารถเข้ากันได้ดี และยอมให้พลายบุญหลงกินนมจากเต้า แต่ยังต้องให้นมถั่วเหลืองเสริมด้วย เพื่อให้ลูกช้างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และขณะนี้พลายบุญหลงไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว
นายสัตวแพทย์สิทธิเดช กล่าวว่าพังพุ่มพวงเป็นแม่พันธุ์ที่ดีมากนิสัยไม่ดุร้าย เป็นช้างท่องเที่ยวเคยตกลูกมาแล้ว 1 เชือก อีกทั้งยังเคยเป็นแม่รับของพลายเอไอ หรือพลายปฐมสมภพ ชื่อพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นช้างที่เกิดขึ้นจากการผสมเทียมด้วยน้ำเชื้อสดเชือกแรกของเอเชีย ถือว่าพังพุ่มพวงมีประวัติในการดูแลช้างน้อยอย่างดี.-สำนักข่าวไทย


ที่มา http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/278153.html

ไม่มีความคิดเห็น: